[สมบัติประจำชาติ]อากาอิโตะ โอโดชิ โยโรย (หมวกเหล็กและเกราะคลุมไหล่ขนาดใหญ่), กำหนดเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2495

[สมบัติประจำชาติ]อากาอิโตะ โอโดชิ โยโรย (หมวกเหล็กและเกราะคลุมไหล่ขนาดใหญ่) รูปถ่าย01
ผสานจิตวิญญาณแห่งนักรบ และทำขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่มีในสมัยนั้นนี่คือชุดเกราะแบบ "โอโยโรย" ครบชุดที่เก่าแก่ที่สุด ทำขึ้นปลายสมัยเฮอัน มีน้ำหนักรวมถึง 26 กิโลกรัม
*ตามบันทึกของศาลเจ้า ฮาตาเกยามะ ชิเงตาดะได้ถวายชุดเกราะนี้เป็นเครื่องสักการะแก่ศาลเจ้าเมื่อ พ.ศ. 1734
"โอโยโรย" คือชุดเกราะอย่างเป็นทางการที่นักรบตำแหน่งสูงสวมใส่ เรียกอีกชื่อว่า "ชิกิโชโนะ โยโรย" (ชุดเกราะสำหรับพิธีทางการ)

*สมัยเฮอัน (พ.ศ. 1337-1728)

โอโยโรยที่ผสานประโยชน์ใช้งานกับความวิจิตรงดงามเข้าด้วยกันอากาอิโตะ โอโดชิ โยโรย มีคุณสมบัติพิเศษช่วยให้สามารถยิงธนูบนหลังม้าได้อย่างแม่นยำ คิดกันว่าเป็นแบบมาตรฐานของโอโยโรย และผสมผสานความวิจิตรงดงามของชนชั้นสูงในสมัยเฮอัน
ในสมัยเอโดะ โทกูงาวะ โยชิมูเนะ โชกุนรุ่นที่ 8 และโทกูงาวะ อิเอฮารุ โชกุนรุ่นที่ 10 ได้ตรวจดูชุดเกราะนี้ ณ ปราสาทเอโดะ เรื่องราวนี้ปรากฏอยู่ใน "ชูโกจิตชุ" ตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2343

*ชูโกจิตชุ คือบันทึกรายการโบราณวัตถุและงานศิลปะเก่าแก่ รวบรวมโดยมัตสึไดระ ซาดาโนบุ

หัตถศิลป์ดั้งเดิมแห่งการร้อยเรียงโอโยโรยทำขึ้นโดยการนำหนังวัวแผ่นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า "โคซาเนะ" มาร้อยเรียงเข้าด้วยกัน
โคซาเนะแต่ละชิ้นมีขนาดเล็กก็จริง แต่เมื่อนำมาเรียงต่อกันเป็นชั้น ๆ ช่วยเสริมการป้องกันภัยและไม่เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวในสนามรบ นอกจากนี้ยังงดงามมากด้วย


[สมบัติประจำชาติ]อากาอิโตะ โอโดชิ โยโรย (หมวกเหล็กและเกราะคลุมไหล่ขนาดใหญ่) รูปถ่าย02
สีแดงชาดจาก 800 ปีก่อนยังคงหลงเหลือให้เห็นจวบจนปัจจุบันเส้นด้ายสีแดงเก่า ๆ จากปลายสมัยเฮอันยังดูสดใสจวบจนปัจจุบัน ขณะที่เส้นด้ายสีแดงซีด ๆ ที่เห็นนั้น เป็นด้ายใหม่เมื่อครั้งดำเนินการบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2446
สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เทคนิคการย้อมในสมัยเฮอันเหนือกว่าสมัยเมจิ

หมวกเหล็กโบราณที่บ่งบอกความสูงสง่าน่าเกรงขามหมวกเหล็กที่ช่วยป้องกันศีรษะ ประกอบด้วย "ฮาจิ" และ "ชิโกโระ"
"ฮาจิ" คือหมวกเหล็ก "อิงาโบชิ" ที่มีหมุดโลหะประดับอยู่ ส่วน "ชิโกโระ" ประกอบด้วยแผ่นที่อยู่ทางด้านหลังและข้างหมวก เพื่อป้องกันลำคอและไหล่ของผู้สวมใส่ ส่วนปลายซ้ายและขวาโค้งเข้าเล็กน้อยเพื่อป้องกันบริเวณใบหน้า
[สมบัติประจำชาติ]อากาอิโตะ โอโดชิ โยโรย (หมวกเหล็กและเกราะคลุมไหล่ขนาดใหญ่) รูปถ่าย03
โอโยโรย ครบชุดที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความประณีตงดงามและความกล้าหาญส่วนที่โค้งของ "ชิโกโระ" เรียกว่า "ฟูกิกาเอชิ" ด้านบนของส่วนที่เป็นโลหะและฟูกิกาเอชิ เรียงรายไปด้วยหนังกวางที่ตกแต่งอย่างสวยงามและเครื่องประดับโลหะรูปดอกเบญจมาศ

หมวกเหล็กไม่ได้มีไว้เพื่อใช้งานเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความสง่างามของชนชั้นสูงในสมัยเฮอันด้วย
ชุดเกราะแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เพื่อสร้างเสริมความสง่างามน่าเกรงขามในแบบนักรบผู้กล้า

[สมบัติประจำชาติ]อากาอิโตะ โอโดชิ โยโรย (หมวกเหล็กและเกราะคลุมไหล่ขนาดใหญ่) รูปถ่าย04
นี่คือ อากาอิโตะ โอโดชิ โยโรย ที่ชิเงตาดะได้ถวายเป็นเครื่องสักการะกล่าวกันว่า ชุดนักรบที่สืบทอดมาจากยุคของฮาตาเกยามะ ชิเงตาดะ ได้รับการถวายเป็นเครื่องสักการะแก่ศาลเจ้ามูซาชิมิตาเกจินจะ
อากาอิโตะ โอโดชิ โยโรย ที่เห็นตรงหน้า ทำให้นึกถึงภาพความกล้าหาญของชิเงตาดะ ซึ่งยังเป็นที่ล่ำลือว่ามีความเลื่อมใสศรัทธาต่อเทพเจ้าประจำภูเขามิตาเกะในดินแดนมูซาชิ

ฮาตาเกยามะ ชิเงตาดะ แบบฉบับแห่งนักรบฮาตาเกยามะ ชิเงตาดะ (พ.ศ. 1707-1748) เกิดในครอบครัวผู้นำเขตพื้นที่มูซาชิ โคกูฟุ และมีชีวิตอยู่ในช่วงปลายสมัยเฮอันถึงต้นสมัยคามากูระ
ชิเงตาดะเป็นผู้รับใช้ใกล้ชิดของมินาโมโตโนะ โยริโตโมะ และมีบทบาทสำคัญในรัฐบาลโชกุนสมัยคามากูระ
มีบันทึกใน "อาซูมะ คางามิ" จดหมายเหตุทางประวัติศาสตร์ของรัฐบาลโชกุนสมัยคามากูระ บรรยายถึงชิเงตาดะว่า เป็นชายหนุ่มรูปงาม มีพรสวรรค์ด้านดนตรี และมีพละกำลังถึงขั้นสามารถแบกหินขนาดใหญ่ได้
ในสมรภูมิอิจิโนะทานิ ซึ่งเป็นที่เลื่องลือเกี่ยวกับ "ฮิโยโดริโงเอโนะ ซากาโอโตชิ" (การโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวในฮิโยโดริโงเอะด้วยการวิ่งลงเขา) ของมิยาโมโตโนะ โยชิตสึเนะ ว่ากันว่าเขาได้แบกม้าตัวโปรดขึ้นหลัง พาลงจากหน้าผาเพื่อไม่ให้ม้าได้รับบาดเจ็บ
เขาได้รับการขนานนามว่า "แบบฉบับแห่งนักรบ" จากอุปนิสัยพึ่งพาได้