ศาลเจ้าบนฟากฟ้าที่คอยปกปักรักษาดินแดนมูซาชิมาแต่โบราณ

รูปถ่าย02
ศาลเจ้ามูซาชิมิตาเกจินจะตั้งอยู่บนยอดเขามิตาเกะภูเขามิตาเกะซึ่งมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบของดินแดนมูซาชิ ได้รับการเคารพบูชามาแต่โบราณในฐานะภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของบรรดานักรบที่มีอำนาจมาตั้งแต่สมัยคามากูระจนถึงสมัยเอโดะ ในฐานะศูนย์กลางของชูเง็นโดหรือลัทธิที่สักการะบูชาภูเขา
ภูเขาลูกนี้ยังเคยเป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้านที่สักการะภูเขาลูกนี้ในฐานะเทพเจ้าที่ประทานพรให้เก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์และปกป้องให้รอดพ้นจากภัยพิบัติต่าง ๆ โองูจิมางามิ หรือสุนัขป่าญี่ปุ่นที่กลายเป็นเทพเจ้า เป็นที่รู้จักในนาม "โออินุซามะ" ทุกวันนี้ก็มีคนที่รักสุนัขจำนวนมากกราบไหว้บูชา
เส้นทางไปยังศาลเจ้ายังคงหลงเหลือร่องรอยจากอดีต ผู้ไปเยือนสามารถชำระล้างจิตใจตนเองท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
แผนที่ภูเขามิตาเกะ มีทางเดินจาก 'สถานีมิตาเกซัง' สถานีปลายทางเคเบิลคาร์ของการรถไฟมิตาเกะ โทซัง ไปถึงศาลเจ้า แนะนำให้สวมรองเท้าที่เดินสบาย เนื่องจากระหว่างทางมีเนินเขาสูงชันและมีช่วงที่เป็นขั้นบันไดระยะทางยาว
ภายในบริเวณศาลเจ้ามูซาชิมิตาเกจินจะ


รูปถ่าย03
ประวัติของศาลเจ้ามูซาชิมิตาเกจินจะกล่าวกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิชูจิน ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้รับการกราบไหว้บูชามาแต่โบราณ
เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะศูนย์กลางความเลื่อมใสศรัทธาต่อซาโอในดินแดนทางตะวันออก ภายหลังจากที่รูปสลักของซาโอ กงเง็นได้รับการประดิษฐานที่นี่เมื่อ พ.ศ. 1279 ให้ผู้คนได้กราบไหว้ขอพรให้ดินแดนนี้แคล้วคลาดปลอดภัยและมั่นคง
ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของบรรดาผู้นำกองทัพมาตั้งแต่สมัยคามากูระ จึงมีสิ่งของจำนวนมาก เช่น เสื้อเกราะ, อานม้า, ดาบ ฯลฯ ที่มีผู้นำมาถวายเป็นเครื่องสักการะ
มีตำนานเล่าว่า "โองูจิมางามิ" ซึ่งเป็นเทพที่สถิต ณ ศาลเจ้ามูซาชิมิตาเกจินจะ คือสุนัขป่าสีขาวที่ช่วยนำทางยามาโตะ ทาเกรุ จนปลอดภัยขณะที่หลงทาง และได้กลายเป็นเทพโองูจิมางามิที่คอยปกปักรักษาภูเขา หลังจากนั้นก็เป็นที่รู้จักในนามโออินุซามะ และได้รับการกราบไหว้บูชาในฐานะเทพคุ้มครองชาวไร่ชาวนาและปัดเป่าเภทภัย
ในสมัยเอโดะ มีพระตระเวนแจกเครื่องรางนำโชคที่มีรูปวาดของโออินุซามะ ทำให้ความเลื่อมใสศรัทธาในมิตาเกะแพร่ออกไปทั่วภูมิภาคคันโต

*พ.ศ. 2417 เปลี่ยนชื่อจาก "มิตาเกะ ซาโอ กงเง็น" เป็น "ศาลเจ้ามิตาเกจินจะ" กระทั่ง พ.ศ. 2495 ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น "ศาลเจ้ามูซาชิมิตาเกจินจะ" และใช้มาจวบจนปัจจุบัน
พิธีกรรมและงานที่จัดที่ศาลเจ้ามูซาชิมิตาเกจินจะ


PDF Download    PDF